ข้ามประตูแม่สอดสู่เมืองเมียวดี ไหว้พระสองแผ่นดิน เสน่ห์งดงาม
มิงกะลาบา เป็นคำทักทายภาษาเมียนมาร์ หมายถึง สวัสดี เพราะกระปุกท่องเที่ยวได้มีโอกาสร่วมเดินทางไปกับโครงการ "เปิดประตู AEC เชื่อมไมตรีสองฝั่งเมย" ตอน ไหว้พระสองแผ่นดิน เยือนถิ่นวัฒนธรรมเมืองชายแดน แคว้นพุทธภูมิ ไทย-สหภาพเมียนมาร์
แม่สอด ดินแดนสุดประจิมที่ริมเมย เปี่ยมเสน่ห์ หลากหลายวัฒนธรรมน่าชมเชย
แม่สอด เป็นอำเภอหนึ่งทางตอนกลางของจังหวัดตาก อยู่ห่างจากอำเภอเมืองตาก 86 กิโลเมตร จากประวัติความเป็นมามีหลักฐานว่า เมื่อปี พ.ศ. 2404 2405 บริเวณที่ตั้งอำเภอแม่สอดในปัจจุบัน ได้มีชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงตั้งถิ่นฐานทำมาหากิจอยู่ เรียกชื่อหมู่บ้านว่า "บ้านพะหน่อแก" ต่อมามีคนไทยจากถิ่นอื่นพากันอพยพลงมาทำมาหากิน และเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ชาวกะเหรี่ยงซึ่งไม่ชอบอยู่ปะปนกับชนเผ่าอื่น ต้องพากันอพยพไปอยู่ที่อื่น หมู่บ้านแห่งนี้ได้เจริญขึ้นตามลำดับ ต่อมาทางราชการได้ย้ายด่านเก็บภาษีอากรมาอยู่ที่นี่ จนถึงปี พ.ศ. 2441 ทางราชการจึงได้ยกฐานะหมู่บ้านขึ้นเป็นอำเภอ เรียกชื่อว่า "อำเภอแม่สอด" ให้อยู่ในเขตปกครองของมณฑลนครสวรรค์ ต่อมาเมื่อมีการมีการปรับปรุงแก้ไขระบบบริหารราชการส่วนภูมิภาค อำเภอแม่สอดจึงได้เปลี่ยนมาขึ้นกับจังหวัดตาก
แม่สอด เป็นอำเภอหนึ่งทางตอนกลางของจังหวัดตาก อยู่ห่างจากอำเภอเมืองตาก 86 กิโลเมตร จากประวัติความเป็นมามีหลักฐานว่า เมื่อปี พ.ศ. 2404 2405 บริเวณที่ตั้งอำเภอแม่สอดในปัจจุบัน ได้มีชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงตั้งถิ่นฐานทำมาหากิจอยู่ เรียกชื่อหมู่บ้านว่า "บ้านพะหน่อแก" ต่อมามีคนไทยจากถิ่นอื่นพากันอพยพลงมาทำมาหากิน และเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ชาวกะเหรี่ยงซึ่งไม่ชอบอยู่ปะปนกับชนเผ่าอื่น ต้องพากันอพยพไปอยู่ที่อื่น หมู่บ้านแห่งนี้ได้เจริญขึ้นตามลำดับ ต่อมาทางราชการได้ย้ายด่านเก็บภาษีอากรมาอยู่ที่นี่ จนถึงปี พ.ศ. 2441 ทางราชการจึงได้ยกฐานะหมู่บ้านขึ้นเป็นอำเภอ เรียกชื่อว่า "อำเภอแม่สอด" ให้อยู่ในเขตปกครองของมณฑลนครสวรรค์ ต่อมาเมื่อมีการมีการปรับปรุงแก้ไขระบบบริหารราชการส่วนภูมิภาค อำเภอแม่สอดจึงได้เปลี่ยนมาขึ้นกับจังหวัดตาก
อำเภอแม่สอด เป็นอำเภอที่มีการค้าระหว่างประเทศไทยกับสหภาพเมียนมาร์ เนื่องจากเป็นอำเภอที่อยู่ติดชายแดน และมีวัดวาอารมต่าง ๆ รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวมากมายให้ไปสัมผัส ซึ่งเราได้มีโอกาสไปไหว้ ศาลเจ้าพ่อพะวอ มงคลสถานศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองแม่สอด ตั้งอยู่บนเนินดินเชิงเขาพะวอ ถนนสายตาก-แม่สอด เล่ากันว่า ท่านเป็นนักรบชาวกะเหรี่ยง ในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงแต่งตั้งให้เป็นนายด่านที่ด่านแม่ละเมา เพื่อคอยเฝ้าป้องกันข้าศึกมิให้ข้ามเขามาถึงเมืองตากได้ และได้ต่อสู้กับพม่าที่รุกรานเข้ามาทางด่านแม่ละเมาเพื่อปกป้องเอกราชของชาติจนตัวเองต้องเสียชีวิตในสนามรบแห่งนี้ ทั้งนี้ ด้วยเหตุเพราะเจ้าพ่อพะวอท่านเป็นนักรบ จึงชอบเสียงปืน เพื่อแสดงความเคารพผู้ที่เดินทางผ่านไปมา มักจะสักการะท่านด้วยการบีบแตรรถ ยิงปืน หรือจุดประทัดถวาย
ไหว้พระขอพรที่ วัดแม่ซอดน่าด่าน หรือวัดเงี้ยวหลวง (วัดหลวง) แต่เดิมเป็นที่พักแรมของพ่อต้าชาวไทยใหญ่ ต่อมาได้ตั้งรกรากที่นี่และรวมกันสร้างวัดนี้ขึ้นมา มีพระพุทธรูปปูนปั้นอยู่ในวิหาร 5 องค์ พระพุทธรูปหินอ่อน 2 องค์ ทองเหลือง 1 องค์ ซึ่งได้มาจากสหภาพเมียนมาร์ ซึ่งในช่วงวันเข้าพรรษาของทุกปี ทางวัดจะจัดให้มีประเพณีแล้อุปั๊ดตะก่า หรือแห่ข้าวพระพุทธ ซึ่งเป็นประเพณีของชาวไทยใหญ่ที่สืบทอดกันมากว่า 100 ปี
และไปเยี่ยมชม วัดท่าสายโทรเลข หรือวัดห้วยม่วง บ้านริมเมย ตำบลท่าสายลวด ตั้งอยู่ติดชายแดนสหภาพเมียนมาร์ มีแม่น้ำเมยกั้นเขตแดน และมีสายโทรเลขของทางราชการมาจบสุดเขตที่หมู่บ้านนี้ จึงเป็นที่มาของชื่อวัด ภายในมีมหาเจดีย์จตุราจารย์ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2539 สุดงดงาม อีกทั้งยังมีพระอุโบสถหลังใหญ่ตระการตา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น