วันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

นราธิวาส ชีวิตก้าวเดินด้วยศรัทธา



1. ปลายเดือนตุลาคม ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือเริ่มมาเยือนนราธิวาส

           เกลียวคลื่นสาดซัดลงบนผืนทรายที่ หาดนราทัศน์ สถานที่หย่อนใจของคนอำเภอเมืองฯ ชายชรากำลังเพียรถ่ายภาพหลานตัวน้อยวัยกำลังซน ชายชรานุ่งโสร่ง สวมเสื้อเชิ้ตขาวกับหมวกกะปิเยาะห์ อันเป็นเครื่องแต่งกายของชายมุสลิมผู้ศรัทธา ขณะเสียงหัวเราะรื่นรมย์แว่วมาจากชายชรา ผมหันไปยิ้มกับมิตรร่วมทาง คล้ายบอกเขาว่า สิ่งที่ฟังมาอาจไม่ใช่ความจริงทั้งหมดที่เป็นไป

           ผมมาเยือนนราธิวาส 7 ครั้งแล้ว มากพอที่จะเข้าใจในบางแง่มุม ทว่าก็ยอมรับว่าตนเอง "รู้" น้อยเหลือเกินเกี่ยวกับจังหวัดปลายสุดด้ามขวานนี้ ระหว่างสายลมหนาวค่อย ๆ เดินทางจากทิศเหนือลงใต้ ผมมาเยือนศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพราะอยากเห็นบางอย่างที่ผลิดอกออกผลในฤดูกาลนี้

           ที่มุมหนึ่งในแปลงไม้ผล ท่ามกลางพรรณไม้ร่มรื่นน้อยใหญ่ ใครบางคนปลิดลองกองอันดกดื่นบนกิ่งก้าน ชิมรสหอมหวานแล้วก็ยิ้มอิ่มเอมใจ ในยามนั้นเองที่ผมนึกถึงการงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นความจริงที่สิ่งต่าง ๆ เติบโตงอกงามภายในศูนย์ฯ แห่งนี้ เกิดจากพระราชดำริคราวเสด็จพระราชดำเนินเยือนที่นี่เมื่อ พ.ศ. 2524 พร้อมแผนที่และกล้องถ่ายภาพคู่พระองค์

           จากผืนดินซึ่งเปรี้ยว ปลูกพืชใด ๆ ไม่ได้เลย วันนี้พื้นที่ 1,740 ไร่ อุดมด้วยพืชพรรณและผลไม้ อีกทั้งการงานหลากหลายที่หนุนช่วยให้พี่น้องมุสลิมมีชีวิตที่ดีขึ้น


   ย้อนเวลากลับไปในวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2524 "ศูนย์พิกุลทอง" ได้เริ่มก่อตั้งขึ้น งานแรกที่พระองค์ทรงลงมือทำคือการ "แกล้งดิน" จากดินซึ่งเปรี้ยวจัด ทรงเร่งให้เป็นกรดจัดรุนแรงที่สุด โดยการทำให้ดินแห้งและเปียกสลับกัน แล้วใช้น้ำล้างดินกับโรยหินปูนฝุ่น ผลที่ได้น่าชื่นใจ ไม่เพียงพื้นรกร้างกว่าพันไร่จะค่อย ๆ พลิกผันกลายเป็นดินอันอุดม ปลูกพืชอะไรก็งอกงาม ความสำเร็จนี้ยังเผื่อแผ่ไปยังหมู่บ้านต่าง ๆ ครอบคลุมผืนดินที่เคยว่างเปล่านับแสนไร่

           ลองกองดกดื่นในวันนี้ เป็นเพียงหนึ่งในหลายหลาก "ผล" แห่งพระวิริยะที่ดำเนินมากว่า 30 ปี ดอกผลอันหอมหวานในวันนี้


   ย้อนเวลากลับไปในวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2524 "ศูนย์พิกุลทอง" ได้เริ่มก่อตั้งขึ้น งานแรกที่พระองค์ทรงลงมือทำคือการ "แกล้งดิน" จากดินซึ่งเปรี้ยวจัด ทรงเร่งให้เป็นกรดจัดรุนแรงที่สุด โดยการทำให้ดินแห้งและเปียกสลับกัน แล้วใช้น้ำล้างดินกับโรยหินปูนฝุ่น ผลที่ได้น่าชื่นใจ ไม่เพียงพื้นรกร้างกว่าพันไร่จะค่อย ๆ พลิกผันกลายเป็นดินอันอุดม ปลูกพืชอะไรก็งอกงาม ความสำเร็จนี้ยังเผื่อแผ่ไปยังหมู่บ้านต่าง ๆ ครอบคลุมผืนดินที่เคยว่างเปล่านับแสนไร่

           ลองกองดกดื่นในวันนี้ เป็นเพียงหนึ่งในหลายหลาก "ผล" แห่งพระวิริยะที่ดำเนินมากว่า 30 ปี ดอกผลอันหอมหวานในวันนี้





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น